วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2550

dsg

บนเวทีดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2007 แฟนๆ ของมิตซูบิชินอกจากจะได้สัมผัสกับโฉมใหม่ของสายพันธุ์แลนเซอร์แล้ว ยังได้มีโอกาสอุ่นเครื่องกับผลผลิตต่อเนื่องที่ขึ้นชื่อในด้านความแรงอย่างเวอร์ชันอีโวลูชันอีกด้วย เมื่อมิตซูบิชินำเวอร์ชันต้นแบบที่มีความใกล้เคียงกับเวอร์ชันจำหน่ายจริงอย่างมากของอีโวลูชัน 10 หรือ X ออกมาเปิดตัวพร้อมๆ กัน ก่อนที่จะเริ่มทำตลาดในเดือนกันยายน 2007


ชื่อของแลนเซอร์ อีโวลูชันเป็นที่รู้จักในกลุ่มของคนที่ชื่นชอบความแรงบนตัวถังแบบ 4 ประตูมานานนับตั้งแต่ปี 1992 ซึ่งรถยนต์ในสายพันธุ์นี้ถือกำเนิดขึ้นมาโดยอิงอยู่กับกฎการแข่งขันแรลลี่โลก หรือ WRC ที่ระบุว่ารถยนต์ที่จะนำมาใช้เป็นตัวแข่งจะต้องมีการผลิตออกขายในตลาดตามจำนวนที่ FIAกำหนดเอาไว้ด้วย นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แลนเซอร์ อีโวลูชันเป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นปัจจุบัน หรือรุ่นที่ 9 ถึงแม้ว่าในช่วงหลังมิตซูบิชิจะไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันแรลลี่โลก แต่ก็ยังผลิตเวอร์ชันนี้ออกขายตามเจนเนอเรชันของตลาด เพราะกลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วว่านอกจากแลนเซอร์รุ่นธรรมดาแล้วยังจะต้องมีอีโวลูชันวางขายควบคู่กันด้วย


การพัฒนาสายพันธุ์ที่ 10 หรือ X ของอีโวลูชันอิงอยู่บนพื้นฐานของแลนเซอร์ใหม่ที่ใช้พื้นตัวถังรุ่นใหม่ ซึ่งทางมิตซูบิชินำมาใช้ครั้งแรกในการผลิตเอสยูวีรุ่นเอาท์แลนเดอร์ ขณะที่ทุกรายละเอียดของตัวรถได้รับการปรับปรุงจากเวอร์ชันต้นแบบคอนเซ็ปต์ เอ็กซ์ที่เปิดตัวในโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2005 ให้มีความเหมาะสมสำหรับการใช้งานจริง และถึงแม้ว่าในการเปิดตัวครั้งใหม่นี้ มิตซูบิชิจะพ่วงคำว่าโปรโตไทป์-Prototype เข้ามาในชื่อรุ่นของอีโวลูชัน 10 แต่เกินกว่า 90% ของรายละเอียดที่ปรากฏอยู่บนตัวรถรุ่นนี้จะถูกนำมาใช้ในรุ่นจำหน่ายจริงในช่วงปลายปีอย่างแน่นอน



ประเด็นหลักของความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญไม่ใช่แค่การเปลี่ยนตัวถังใหม่มาใช้ร่วมกับแลนเซอร์ใหม่เท่านั้น แต่ยังยู่ที่จะเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปีที่ใต้ฝากระโปรงหน้าของแลนเซอร์ อีโวลูชันจะไม่ได้มีเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงในรหัส 4G63 วางประจำการอยู่ แต่เปลี่ยนมาเป็นรหัสใหม่ 4B11 ซึ่งนอกจากจะมีเวอร์ชันธรรมดา 152 แรงม้าจับคู่กับเกียร์ซีวีทีสำหรับวางในแลนเซอร์แล้ว ก็ยังมีรุ่นเทอร์โบพ่วงอินเตอร์คูลเลอร์เพื่อนำมาใช้ในแลนเซอร์ อีโวลูชันอีกด้วย เครื่องยนต์รุ่นนี้เป็นของใหม่ทั้งบล็อก มีความจุ 1,998 ซีซีในพิกัด 2,000 ซีซี และแม้ว่าทางมิตซูบิชิจะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดความแรงออกมา แต่ว่ากันว่าตัวเลขของแรงม้าที่ได้จะมีไม่ต่ำกว่า 300 แรงม้าอย่างแน่นอน และที่พิเศษกว่านั้นคือ ขุมพลัง 4B11 จะจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะพร้อมระบบคลัตช์ไฟฟ้าแบบทวินคลัตช์คล้ายกับระบบ DSG ของโฟล์คสวาเกน ซึ่งจะเป็นครั้งแรก (อีกเช่นกัน) สำหรับแลนเซอร์ อีโวลูชัน พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเวลารุ่นใหม่ S-AWC Super-All Wheel Control ในส่วนของตัวรถ บนตัวถัง 4 ประตูมีความยาว 4,495 มิลลิเมตร กว้าง 1,810 มิลลิเมตร สูง 1,480 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตรด้านหน้าใช้ระบบกันสะเทือนแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบมัลติลิงก์ เสริมสมรรถนะในการหยุดด้วยดิสก์เบรกจากเบรมโบ และเพิ่มความลงตัวด้วยล้อแม็กวงโตขนาด 20 นิ้ว


นักขับเท้าหนักที่ชอบความแรงในระดับ 300 แรงม้าจากเครื่องยนต์เทอร์โบ บนตัวถัง 4 ประตูและทะยานอย่างมั่นใจด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อโดยที่มีกลิ่นอายของตัวแข่งแรลลี่โลกเจือออกมาให้สัมผัสแบบพอประมาณ ถึงตอนนี้เตรียมนับถอยหลังรอวันเปิดตัวได้เลย โดยคาดว่าจะเริ่มขายในญี่ปุ่นช่วงเดือนกันยายนนี้ ส่วนในสหรัฐอเมริกาจะเริ่มขายประมาณเดือนมีนาคม 2008

ไม่มีความคิดเห็น: